sondmk header
ปรับเว็บให้แรงติดอันดับด้วยการทำ SEO

สารบัญ SEO

Page 2

SEO คืออะไร ?

SEO (Search Engine Optimization) คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้อยู่ในอันดับผลการค้นหาที่ดีของ Google (การทำให้เว็บติดอันดับที่ดีของผลการค้นหา)


SERP คืออะไร ?

SERP (Search engine results page) คือ หน้าที่แสดงผลของการค้นหาเว็บไซต์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword


Snippet คืออะไร ?

Snippet คือ ข้อความแสดงรายละเอียดโดยย่อของแต่ละเว็บเพ็จ


ประโยชน์ของการทำ SEO

ประโยชน์ของ SEO คือ ถ้าเว็บไซต์ของเราถูกจัดอันดับให้แสดงอยู่ในอันดับแรกๆ ของผลการค้นหา ก็จะทำให้ผู้เข้าชมนั้นคลิกเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเราก่อน จึงทำให้มีโอกาส ที่เราจะเปลี่ยนให้ผู้เข้าชมเหล่านั้น ให้กลายมาเป็นลูกค้าของเราได้มากขึ้น ในแง่ของการขายสินค้าออนไลน์

และเนื่องจาก ผู้เข้าชมเหล่านั้น มักจะเป็นคนที่มีความสนใจในสินค้าของเราอยู่แล้ว ก็แสดงว่า เขาต้องมีความต้องการสินค้านั้นๆอยู่แล้ว เป็นต้น

และอีกอย่าง การทำ SEO นั้น จะช่วยเพิ่ม Traffic เข้ามาสู่เว็บไซต์ของเราเรื่อยๆ ดังนั้น เมือมีคนมาเข้าที่เว็บไซต์เรามาก นั่นหมายความว่า Google นั้นมองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ แล้วก็จะทำการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่สูงๆได้


SEO กับ Google Adwords ต่างกันยังไง ?

SEO เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้ถูกจัดอันดับโดยวิธีการที่เป็น ธรรมชาติ ส่วน Google Adwords จะเป็นการจ่ายเงินเป็นค่าโฆษณาให้กับ Google เพื่อซื้อพื้นที่ในการจัดอันดับผลการค้นหา

เปรียบเทียบ SEO Adwords
การจ่ายเงินเพื่อแสดงเว็บไซต์ ไม่ต้องจ่าย ต้องจ่าย
ระยะเวลาในการติดหน้าแรก ใช้เวลานาน จ่ายเงินแล้วติดเลย
ระดับความยาก ยาก ง่าย
ความน่าเชื่อถือของผู้ชม เชื่อถือผลการค้นหา ผู้ชม ไม่ชอบคลิกที่โฆษณา
กลุ่มเป้าหมาย ตรงกลุ่ม ตรงกลุ่ม


ข้อดีของการทำ SEO

ช่วยเพิ่ม Traffic ได้เป็นจำนวนมาก : ส่งผลให้มีจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้เป็นจำนวนมาก
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ : สามารถที่จะทำได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว
สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย : ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพราะเขาค้นหาจาก Keyword ที่เขามีความต้องการสินค้านั้นๆอยู่แล้ว
สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี : เว็บไซต์ที่แสดงผลการค้นหาในอันดับต้นๆ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี
ช่วยให้เว็บไซต์เรา เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น : ทำให้ผู้ใช้รู้จักเว็บไซต์ของเรามากขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียเงินในการโปรโมทสินค้าเลย


SEO ในอนาคต

ในการทำ SEO เราจำเป็นต้องมัีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้ทันกับเทรนด์การอับเดตอัลกอริธึมของ Google ด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แก่นของการทำ SEO จะเน้นไปที่การทำเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และมีประโยชน์ในการนำเสนอเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword ของผู้ค้นหาให้มากที่สุด


Trend 3 ข้อ ที่ส่งผลต่อการทำ SEO ในปัจจุบันและอนาคต

1. Social Media : เราควรจะมี Social Media เพื่อช่วยทำ SEO เช่น อย่างน้อยก็ควรจะมี Facebook Fanpage เอาไว้สำหรับเป็นช่องทางในการสื่อสารกับผู้ชม เป็นต้น
2. Mobile Friendly : เนื่องจากปัจจุบัน และอนาคต มีการใช้อินเตอร์เน็ตบน Smartphone จึงทำให้ Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับโทรศัพท์มือถือ (Mobile-Friendly) มากยิ่งขึ้น
3. เว็บไซต์จะต้องมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ : เว็บไซต์ที่เรานำเสนอนั้น จะต้องมีคุณค่ากับผู้ชมทั้งหลาย เนื้อหาจะต้องตรงกับความต้องการของผู้ชมให้มากที่สุด จึงจะทำให้ Google มองว่า เว็บไซต์ของเรานั้นเป็นเว็บไซต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน เป็นต้น

เนื่องจาก อัลกอริธึมของ Google มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เราจึ้งจำเป็นต้องเขียนบทความที่เป็นประโยชน์ด้วย


กระบวนการทำงานของ Google

ไต่เก็บข้อมูล (Crawl) : การทำงานของ Google เริ่มจากส่ง Googlebot วิ่งไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อไต่เก็บข้อมูลในแต่ละเว็บไซต์และดูว่าเนื้อหาของเว็บไซต์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับอะไร และมี Keyword ใดบ้างในเว็บ โดยวิ่งไปตามลิงค์ที่แต่ละเว็บไซต์ใช้เพื่อเชื่อมโยงหากัน
ทำเป็นดัชนีบันทึกเก็บไว้ (Indexing) : หลังจากไต่เก็บข้อมูลมาแล้ว ก็เอาข้อมูลที่ได้มานั้น กลับมาทำเป็นดัชนีเก็บเอาไว้ในฐานข้อมูลของ Google และประมวลผลข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูลนี้
จัดอันดับและแสดงผลการค้นหา (Ranking) : หลังจาก Google ทำดัชนีเสร็จแล้ว เมื่อมีผู้ค้นหาเข้ามาค้นหาใน Google โดยใช้ Keyword ในการค้น Google ก็จะทำการเลือกเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword นั้นๆให้มากที่สุดจากฐานข้อมูลของมันเอง แล้วก็จะทำการแสดงผลการค้นหาเหล่านั้นออกมาในหน้า SERP


แก่นของการทำ SEO

จุดประสงค์หลักของ Google ก็คือ ผลการค้นหาจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยข้องกับ Keyword ของงผู้ค้นหามากที่สุด ปรับแต่งยังไงก็ได้ หรือทำยังไงก็ได้ให้เนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน และบอทมากที่สุด


การทำ SEO แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญๆคือ

SEO On-Page : เป็นการปรับแต่งส่วนต่างๆภายในเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ส่งผลต่อการจัดอันดับที่ดีใน Google
SEO Off-Page : คือการปรับแต่งและใช้องค์ประกอบจากภายนอกเข้ามาช่วยในการส่งเสริมเว็บไซต์ของเราให้ติดอันดับผลการค้นหาที่ดี เช่น การทำ Backlink การโปรโมทเว็บ การใช้ Social Media เข้ามาช่วย เป็นต้น


การวางแผนก่อนลงมือทำ SEO

แผนการที่ดีจะทำให้การทำงานของ SEO ของเราเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้
1.การำกำหนดกลุ่มผู้ใช้งาน : ขั้นตอนแรกคือ การทำความรู้จักกับเว็บไซต์ของตัวเองให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อนว่า ใคร คือกลุ่มเป้าหมายของเรา
2.คัดเลือก Keyword ที่มีคุณภาพ : เราจำเป็นต้องรู้ว่า กลุ่มเป้าหมายของเราเขามีความสนใจอะไร และใช้ Keyword อะไรในการค้นหาในเว็บไซต์

การคัดเลือก Keyword ที่มีคุณภาพ จะช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีโอกาสที่จะนำพา Traffic จำนวนมากเข้ามาสู่เว็บไซต์และเป็น Traffic จากกลุ่มเป้าหมายของเราอีกด้วย
3.เมื่อได้ Keyword ที่ต้องการมาแล้ว ก็เร่ิมทำ SEO On-Page กัน
3.1ปรับแต่ง Meta Tag ในแต่ละหน้าเพจ
การปรับแต่ง Meta Tag จะเป็นการช่วยบอกให้ Crawlers ที่เข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ของเรารู้ว่าเนื้อหาที่อยู่ภายในเพจแต่หละหน้านั้นเกี่ยวข้องกับ Keyword อะไร
3.2เขียนเนื้อหาในเว็บไซต์ให้ส่งผลต่อ SEO
เนื้อหาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำ SEO On-Page และเป็นจุดที่ Google ให้น้ำหนักมากที่สุดในการจัดอันดับผลการค้นหาในหน้า SERP เนื้อหาในแต่ละหน้าเพจจะถูก Crawlers เก็บข้อมูลอย่างละเอียดและทำความเข้าใจว่าเนื้อหานั้นเกี่ยวข้องกับ Keyword คำใดบ้าง
3.3 ปรับแต่งโครงสร้างของเว็บไซต์
การปรับแต่งโครงสร้างของเว็บไซต์ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับ Crawlers วิ่งเข้ามาไต่เก็บข้อมูลภายในเว็บไซต์ของเราได้ง่าย โดยไม่เกิดการติดขัดใดๆ ถ้าโครงสร้างของเว็บไซต์ไม่ดี Craw ก็จะหลงทางและอาจหาสิ่งใดไม่เจอ นอกจากนี้แล้ว การมีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี จะส่งผลให้เว็บไซต์นั้นมีประสิทธิภาพที่ดีตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความเร็ว การค้นหาสิ่งที่ต้องการได้สะดวก เว็บไซต์ไม่มีความซับซ้อนจนเกินไป

SEO Off-Page

ขั้นตอนของการทำ Off-Page คือ การปรับแต่งองค์ประกอบภายนอกเว็บไซต์ ดังนี้

4.1 การสร้าง Backlink เข้าสู่เว็บไซต์
Backlink คือ การใช้ลิงค์เพื่อเชื่มโยงจากเว็บไซต์หนึ่งไปสู่อีกเว็บไซต์หนึ่ง การมี Backlink เข้ามานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะ Google จะมองว่า เว็บเรามีเนื้อหาที่ดีและมีประโยชน์ต่อผู้ชม
4.2 การใช้ Social Media ให้เป็นประโยชน์
เราสามารถที่จะใช้ Social Media เพื่อกระจายข่าวสาร และบอกต่อบทความ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการทำ SEO เป็นอย่างมาก
4.3 การทำ Search Engine Submission
Search Engine submission เป็นการทำ SEO ด้วยวิธีการนำเอาเว็บไซต์ของเราไปลงทะเบียนกับเว็บไซต์ที่เป็น Search Engine ทั้งหลาย เพื่อให้ Search Engine เหล่านั้นรู้จักเว็บไซต์ของเรา และบันทึกเข้าสู่ Directory เอาไว้

ดูแลปรับปรุงเว็บไซต์อยู่เรื่อยๆ

การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาศึกษาและปฎิบัติค่อนข้างยาวนาน ต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทนมาก เพราะฉะนั้น อย่าใจร้อน ต้องหมั่นคอยอัพเดตเนื้อหาและทำเว็บไซต์ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ชมอยู่เสมอ

การวางแผนที่ดี จะนำไปสู่กระบวนการทำงานที่เกิดประสิทธิภาพ การทำ SEO ก็เช่นเดียวกัน


Keyword คืออะไร

Keyword เป็นคำ หรือ วลี ที่ผู้ใช้ ใส่เข้าไปในช่องค้นหาของ Search Engine เพื่อค้นหาเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคำๆนั้น ถ้าเราทำ SEO ให้กับ Keyword ทีมีจำนวนการค้นหามากๆ ก็จะช่วยให้สร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ของเราได้เป็นอย่างมากเช่นกัน ฉะนั้นแล้ว การเลือก Keyword มาใช้ก่อนที่จะลงมือทำ SEO นั้นจึงมีความสำคัญมาก

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถรู้ได้เลย ว่าผู้ใช้งานเหล่านั้นจะใช้ Keyword อะไรในการค้นหาที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา ฉะนั้นแล้ว เราจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการค้นหา Keyword เข้ามาช่วย และเครื่องมือที่คนทำ SEO นิยมมากทีสุดคือ Keyword Planner เนื่องจากฟรี และใช้งานได้ง่าย


การทำ Keyword Research

การทำ Keyword Research ก็คือ กระบวนการวิเคราะห์เพื่อคัดเลือก Keyword ที่จะนำมาใช้สำหรับทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ทีดีที่สุด การวิจัย Keyword นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการทั้งหมดในการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine ตัวอย่างเช่น "ซื้อรองเท้า" แสดงว่า ผู้ใช้นั้นมีความประสงค์ที่จะซื้อรองเท้า (ต้องการที่จะซื้อ) กับคำว่า ข้อูลรองเท้า เท่ากับว่า ผู้ใช้นั้นเพียงแค่ต้องการหาข้อมูลเกียวกับรองเท้า (ต้องการแค่เปรียบเทียบ) เป็นต้น

Keyword ที่มีคุณภาพ เป็นแบบไหน ?

Keyword ที่จะนำมาทำ SEO ควรจะเป็น Keyword ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเว็บไซต์ของเราให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสื่อความหมาย และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ และที่สำคัญเลยก็คือ เราต้องระบุให้ได้ก่อนว่า เว็บไซต์ของเรา ทำขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อะไร เช่น ขายสินค้า เราก็ต้องนำเสนอเนื้อหาที่มีประโยชน์ให้กับแบรนด์สินค้าของเรา เป็นต้น

การคัดเลือก Keyword ในการทำ SEO

1. จะต้องมีจำนวน Traffic ไม่น้อยจนเกินไป :

การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้น อย่าไปเสียเวลากับพวก Keyword ทีมี Search Volume น้อยๆ

2. จะต้องเป็น Keyword ทีประกอบไปด้วยคำตั้งแต่ 2-3 คำขึ้นไป :

เพราะส่วนใหญ่ Keyword ที่มีแค่คำเดียวโดดๆ มักจะเป็น Keyword ที่กว้างเกินไป เช่น "หลอดไฟ"

3. จะต้องเป็น Keyword ที่ตอบจุดประสงค์ของเว็บไซต์เรา :

เราจะต้องรู้ว่า หน้า Loading Page ของเรา ทำเพื่ออะไร มีจุดประส่งค์คืออะไร แล้วให้คัดเลือก Keyword ที่ตรงตามจุดประสงค์นั้นที่สุด ควรจะเลือก Keyword ที่มีคำว่า "ราคาถูก" , "ราคาส่ง" เป็นต้น

4. การแข่งขันไม่สูงจนเกินไป :

Keyword ที่มีการแข่งขันที่สูงมากๆ Gooble ชอบจัดอันดับให้กับเว็บไซต์ที่มีคนเข้าชมเยอะๆ เพราะมองว่าเว็บไซต์เหล่านั้น มีความน่าเชื่อถือมากกว่า จึงทำให้ยากที่จะทำการไต่อันดับสูงๆได้


การใส่ tag canonical เพื่อนป้องกัน Dynamic Link

<link rel="canonical" href="http://domain.com/dynamic.php" />

SEO Tools เครื่องมือ สำหรับนักทำ SEO

# ครื่องมือสำหรับทำ SEO (All Pack)
https://smallseotools.com/

# เครื่องมือตรวจสอบ Backlink
https://smallseotools.com/backlink-checker/

# เครื่องมือตรวจสอบ Link เสีย
http://www.brokenlinkcheck.com/
https://www.deadlinkchecker.com/
https://validator.w3.org/checklink
https://www.drlinkcheck.com/


เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์

http://www.visible.net/tools/analyzer/ //เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ Recomments
http://neilpatel.com/seo-analyzer/ //เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ Recomments


เครื่องมือตรวจสอบเว็บไซต์อย่างละเอียด

https://varvy.com///เครื่องมือตรวจสอบเว็บไซต์อย่างละเอียด
https://www.dareboost.com/en/home //เครื่องมือทดสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์
http://www.seoptimer.com/ //เครื่องมือวัดประสิทธิภาพ SEO


เครื่องมือสร้าง Sitemaps

https://www.xml-sitemaps.com //เครื่องมือสร้าง Sitemaps


เครื่องมือ ทดสอบความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ Mobiles

เครื่องมือ ทดสอบความเข้ากันได้บนอุปกรณ์มือถือ


เครื่องมือทดสอบความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ (Test Page Speed.)

ทดสอบความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ


เครื่องมือช่วย Markup สำหรับข้อมูลที่มีโครงสร้าง

โปรแกรมช่วยมาร์คอับข้อมูลที่มีโครงสร้าง


เครื่องมือที่ใช้ในการค้นหา Keywords

https://adwords.google.com/home/tools/keyword-planner/ //เครื่อมือค้นหา Keywords


เครื่องมือตรวจสอบความถูกต้อง ในการเขียน HTML

HTML Validate ตรวสอบความถูกต้อง HTML


เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ (Page Speeds)

http://www.minifier.org/ //CSS & JS Minifier // Recomment
http://minifycode.com/ // HTML>CSS>JS Minify &am; Beautyful Recomment
https://www.willpeavy.com/minifier/ //html minify


การทำ Cache Webpage. (ตัวอย่าง)

<?php
	$offset = 60 * 60 * 24 * 1; // 1 Day 
	$ExpStr = "Expires: " . gmdate("D, d M Y H:i:s", time() + $offset) . " GMT";
	header($ExpStr);
	header("Pragma: cache");
	header("Cache-Control: must-revalidate");
?>
		

Cradit : http://www.thaicreate.com/community/cache-css-javascript-image-webpage.html

Framework

Library


เครื่องมือพัฒนาเว็บ



การออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์


Download SourceCode



copyAllright © 2016 soundmk.com