PHP : ความแตกต่างระหว่าง mysql_fetch_array() กับ mysql_fetch_assoc()

Post by Goborijung at 2019-01-08 10:00:59 | ID: 82

mysql_fetch_array()
ใช้ในการคืนค่าข้อมูลในฐานข้อมูลที่อยู่ในลักษณะเป็นแถวหรือว่าเป็น record โดยตัวแปรผลลัพท์ที่มันคืนค่ากลับคืนมานั้นจะอยู่รูปแบบ
ของตัวแปรอาร์เรย์ครับ แต่พิเศษหน่อยก็คือ ค่าคีย์(Key) ของตัวแปรนั้นจะมีทั้งที่เป็นแบบ Index และก็เป็นชื่อของฟิลด์ที่เราได้ทำการ
เลือก Select ด้วย

mysql_fetch_assoc()
จะทำงานคล้ายๆ กันกับ mysql_fetch_array() คือคืนค่าข้อมูลในฐานข้อมูลที่อยู่ในลักษณะเป็นแถวหรือว่าเป็น record ที่อยู่ใน
รูปแบบของอาร์เรย์ แต่ค่าคีย์(Key) ของตัวแปรนั้นจะมีแค่ชื่อฟิลด์ของคอลั่มที่เราได้ทำการเลือกตอน Select

TIPS  : mysql_fetch_array() ใช้ทรัพยากรมากกว่า mysql_fetch_assoc() ครับ เช่น แรม หรือว่าเวลาในการประมวณผล

cradit: https://lifeatpkru.wordpress.com/2012/12/25/ความแตกต่างระหว่าง-mysql_fetch_array-ก/

PHP : คำสั่งที่ใช้ในการแสดงผลของ PHP

Post by Goborijung at 2018-12-24 17:02:29 | ID: 73

1. echo 
ตัวอย่างคำสั่ง 
echo "1+2 = ",1+2; 
ผลลัพธ์จะได้เท่ากับ 1+2 = 3
2. print 
ตัวอย่างคำสั่ง 
print "1+2 = ",1+2; 
ผลลัพธ์จะได้เท่ากับ Parse error: syntax error, unexpected ','
in F:usb-webserver/root/test/soundmk.com/php.php on line 46 

ข้อแตกต่างระหว่า print กับ echo คือ print ไม่สามารถแยกข้อความกับนิพจน์ ด้วยเครื่องหมาย , ได้
แต่คำสั่ง echo สามารถทำได้

3. printf 
ตัวอย่างคำสั่ง 
printf ("10/3 = %d ",10/3); 
printf ("10/3 = %.2f ",10/3); 

ผลลัพธ์จะได้เท่ากับ 
10/3 = 3 
10/3 = 3.33 

คำสั่ง printf จะแตกต่างจาก echo และ print คือ จะต้องมีวงเล็บเปิดและปิดเสมอ นอกจากนั้นแล้ว printf 
ยังสามารถที่จะจัดรูปแบบการแสดงผลข้อมูล ที่เป็นตัวเลขได้ด้วยตัวอย่างดังตารางข้างล่าง
สัญลักษณ์	คำอธิบาย
%d	แสดงค่าอากิวเมนต์ในรูปแบบของเลขฐานสิบ
%b	แสดง Interger ในรูปของเลขฐานสอง
%c	แสดง Interger ในรูปของรหัส ASCII
%f	แสดง Interger ในรูปของเลขทศนิยม
%o	แสดง Interger ในรูปของเลขฐานแปด
%s	แสดงค่าอากิวเมนต์ในรูปของเลขสตริง
%x	แสดง Interger ในรูปของเลขฐานสิบหก (ตัวพิมพ์เล็ก)
%X	แสดง Interger ในรูปของเลขฐานสิบหก (ตัวพิมพ์ใหญ่)

PHP : ค่าคงที่

Post by Goborijung at 2018-12-24 17:06:53 | ID: 77

ค่าคงที่ (Constant) ใช้เก็บค่าของตัวแปร ทีไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างคำสั่ง
define("WATTS_RMS",1.414); 
$power = 24; 
$volt_max = 24*WATTS_RMS; 
แรงดันไฟ 24 VAC มีค่า Volted RMS เท่ากับ 33.936 

PHP : ชนิดของข้อมูล

Post by Goborijung at 2018-12-24 17:04:27 | ID: 75

ข้อมูลจำนวนเต็ม
ค่า 20 ในเลขฐานสิบ: 20
ค่า 020 ในเลขฐานแปด: 16
ค่า 0x20 ในเลขฐานสิบหก: 32

ข้อมูลทศนิยม
ค่า 2.3 เท่ากับ 2.3 
ค่า 2.3e3 เท่ากับ 2300 » ได้มาจาก 2.3x103
ค่า 2e-3 เท่ากับ 0.002 » ได้มาจาก 2x10-3

ข้อมูลแบบ ตรรกะ
ถ้า 5 < 10 จะได้ 1 » True or 1 
ถ้า 5 > 10 จะได้ 0 » False or 0 

ข้อมูลแบบ Array
$arr[0] มีค่าเท่ากับ 0 
$arr[1] มีค่าเท่ากับ 1 
$arr[2] มีค่าเท่ากับ 2 

ตัวแปรแบบ Array
กำหนดให้ $arr = array("1","2","3","4","5"); 
$arr[0] มีค่าเท่ากับ 1 
$arr[1] มีค่าเท่ากับ 2 
$arr[2] มีค่าเท่ากับ 3 
$arr[3] มีค่าเท่ากับ 4 
$arr[4] มีค่าเท่ากับ 5 

ตัวแปร Array แบบ key 
กำหนดให้ $arr = array("user1"=>"1","user2"=>"2","user3"=>"3","user4"=>"4","user5"=>"5"); 
$arr[user1] มีค่าเท่ากับ 1 
$arr[user2] มีค่าเท่ากับ 2 
$arr[user3] มีค่าเท่ากับ 3 
$arr[user4] มีค่าเท่ากับ 4 

PHP : ตัดสตริง , ตัด String , substr , cut string

Post by Goborijung at 2021-01-07 11:58:08 | ID: 944

<?php

$s = "Hello";
echo substr($s,0,2);

//output : He

?>

PHP : ตัวอย่างโค้ดสำหรับ + - วันเวลา (บวกลบวันเวลา) , Date , strtotime

Post by Goborijung at 2019-05-10 17:00:19 | ID: 85

<?=(strtotime($rs['dom_expiration'])-strtotime(date('Y-m-d')))/(24*60*60)?> //วันที่หมดอายุ - วันที่ปัจจุบัน (คืนค่าเป็นจำนวนวัน)

echo date('Y-m-d', strtotime("+2 Month")); //วันที่ปัจจุบัน +2 เดือน
echo date('Y-m-d', strtotime("2020-01-01 -1 Month")); //วันที่ปัจจุบัน -1 เดือน

PHP : นับข้อมูล String ด้วย strlen | (num string) , length

Post by Goborijung at 2020-08-10 09:38:53 | ID: 697

>> PHP
Ex.
echo strlen('This is a book');

// Javascript
<script>
var str = "Hello World!";
var n = str.length;
</script>

PHP : หาจำนวนเฉพาะตั้งแต่ 1 - 100

Post by Goborijung at 2022-02-06 14:04:12 | ID: 1368

<?php

	// หาจำนวนเฉพาะ ตั้งแต่ 1 - 100
 
	$value=100; 
	$i=1; 

	while($i<=$value) 
	{ 
		$c=0; 
		for($j=1;$j<=$i;$j++) 
		{ 
			if($i%$j==0)$c++; 
		}
		
		if($c==2)
		{
			echo($i)."<br>"; 
		}
		
		$i++; 
	}
?>

PHP : หาเลขที่ซ้ำกันใน Array หลายตัว

Post by Goborijung at 2020-07-25 06:58:37 | ID: 687

<?php

$str = "012345678
123456789
234567890
345678901";

echo $str.'<br>';

$str = explode("
",$str);
print_r($str); echo '<br>';

$x = 1;
foreach($str as $val)
{
	${$x} = array();
	for($i=0; $i<strlen(trim($val)); $i++)
	{
		${$x}[] = substr($val,$i,1);
	}
	$x++;
}

$ans = '';
for()
foreach(${1} as $val)
{
	
		if(in_array($val, ${2}) && in_array($val, ${3}) && in_array($val, ${4}))
		{
			$ans .= $val;
		}
	
}

echo $ans.'<br>';

PHP : เรียกใช้ Function ของ PHP ด้วย Javascript

Post by Goborijung at 2020-07-13 14:05:47 | ID: 676

>> HTML
<input type="button" id="sample" value="click" onclick="sam_click()"/>

>> Javascript
<script type="text/javascript">
function sam_click(clicked)
{
 var x="<?php ex(); ?>";//เรียกใช้ฟังก์ชัน ex() ในไฟล์ PHP
 alert(x);
 return false;
}
</script>

>> PHP
<?php
function ex()
{
$con=mysql_connect("localhost","root","");
mysql_select_db("my_db");
$res=mysql_query("call PrcEmployeeDisplay(777)");
$num=mysql_num_rows($res);
echo($num);
}
?>